เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผมได้มีโอกาสไปที่ อ.วังเหนือ ซึ่งเป็นอำเภอเล็กๆของจังหวัดลำปาง โดยตั้งใจจะไปทำภาระกิจที่บ้านของแฟนผมเอง ช่วงที่เดินทางไปเป็นช่วงหลังปีใหม่ซึ่งคนเดินทางในช่วงนี้จะน้อยเป็นการเดินทางที่รู้สึกดีมากๆครับ ไม่ต้องแย่งกันกันกินแย่งกันใช้เหมือนกับช่วงปีใหม่ที่ต่างคนต่างต้องเดินทางกลับบ้าน มีปีหนึ่งผมเคยไปลำปางตอนช่วงปีใหม่คนเยอะจริงๆ สะพานลอยหน้าหมอชิตคนติดเหมือนรถติดน่ะครับ แย่งกันขึ้นแย่งกันลง ตั้งแต่นั้นผมก็เลยบอกตัวเองว่าจะไม่เดินทางไปไหนช่วงเทศกาลวันหยุดดยาวอีกเป็นอันขาด(สงกรานต์ ปีใหม่ เลิก!!!)
การไปบ้านแฟนที่วังเหนือในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่น้ำตกสวยๆที่หนึ่งซึ่งมีชื่อว่า
"น้ำตกวังแก้ว" การเดินทางไปน้ำตกวังแก้วนี้ก็ไม่ยากและไม่ไกลเท่าไร ขับรถวิ่งไปบนถนนขุนวัง ถ้าวิ่งมาจากเส้นหลักจะเป็นถนนที่อยู่ด้านข้างที่ว่าการอำเภอวังเหนือ โดยมีระยะทางจากถนนเส้นหลักไปที่น้ำตกวังแก้วประมาณ 15 กิโลเมตร ผมได้ยินแฟนผมพูถึงน้ำตกวังแก้วมานานมากแต่ไม่มีโอกาสไปสักที ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีก็เลยขับรถกระบะจากบ้านแฟนมุ่งหน้าไปยังน้ำตกวังแก้วอย่างเต็มกำลัง
รูปที่ถ่ายผ่านหน้ากระจกรถ ในรูปเป็นรูปชาวบ้านกำลังทำไร่กันอยู่
ระหว่างการเดินทางไปยังน้ำตกวังแก้วจะเห็นไร่สวนอยู่ทั้ง 2 ข้างทางไปจนถึงน้ำตกวังแก้วเลย ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นไร่ข้าวโพด ซึ่งชาวบ้านแถววังเหนือจะนิยมปลูกข้าวโพดกันมาก
ถนนที่ขับเพื่อมุ่งไปยังน้ำตกวังแก้วก็จะเป็นถนนขึ้นเขา ลงเขา คดเคี้ยวไปมา และแคบหน่อย คนขับต้องขับอย่างระมัดระวัง บางจุดก็จะมีโค้งอันตรายอยู่ก็ขับช้าๆ หรือให้สัญญาณกับรถที่สวนมาก็จะดี กันการเกิดอุบัติเหตุ
ขับรถมาประมาณ 20 นาทีก็ถึง "น้ำตกวังแก้ว" กันสักที จากรูปก็เป็นที่ทำการของเจ้าหน้าที่ที่นี่ โดยช่วงที่ผมมาเป็นช่วง Low Season ไม่มีรถยนต์จอดอยู่สักคัน มีแต่รถมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ 2-3 คัน แต่อาจเป็นเพราะผมมาเย็นแล้วก็ได้ตอนมาถึงก็ประมาณบ่าย 3 โมงครึ่ง
นี่ก็เป็นทางเข้าไปสู่ น้ำตกวังแก้ว สวยมากๆครับ ตอนเดินลงมาจากรถก็สัมผัสได้ถึงอากาศที่เย็น บริสุทธิ์ สดชื่นมากๆ อาจเป็นเพราะผมมาในช่วงหน้าหนาวด้วย หากจะมากางเต้นท์ที่น้ำตกวังแก้วนี้ก็จะต้องกางบริเวณด้านนอก เจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้เข้าไปกลางเต้นท์ที่ด้านในน้ำตก แต่เค้าจะมีที่พักให้เช่าอยู่ภายในแทน
ตอนแรกผมก็คิดว่าน้ำตกวังแก้วเป็นน้ำตกเล็กๆ แต่พอมาถึงที่ความจริงก็ปรากฏ น้ำตกวังแก้วมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "อุทยานแห่งชาติดอยหลวง" โอ้!!เอาแล้วสิใหญ่ขนาดนี้ต้องไม่ธรรมดาแล้ว ต้องรีบเข้าไปโดยด่วน จากรูปก็เป็นแผนผังของตัวอุทยานครับ
ก่อนที่เราจะเข้าไปชมความสวยงามของ น้ำตกวังแก้ว ได้นั้นเราต้องผ่านด่านเจ้าหน้าที่เก็บเงินคนสวยของเราไปก่อนครับ จากรูปยิ้มสวยเลยครับ เจ้าหน้าที่คนนี้มีอัธยาศัยดีมากครับ ให้คำแนะนำก่อนเข้าไปที่น้ำตกอย่างดี ประทับใจตั้งแต่หน้าประตู ผมก็เลยรีบควักเงินออกจากกระเป๋าเพื่อจ่ายค่าเข้าให้อย่างด่วนจี๋เลยครับ
นี่ก็เป็นรูปตั๋วที่ได้รับหลังจากจ่ายเงินค่าเข้าน้ำตกวังแก้วไป แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ ตั๋วสำหรับคนราคา 20 บาท และตั๋วสำหรับยานพาหนะ ราคา 30 บาท
เพียงก้าวแรกที่เดินผ่านประตูทางเข้าไปผมก็สัมผัสความเย็นสดชื่่นได้อย่างชัดเจน รู้สึกว่าอากาสที่ผมสูดดมเข้าไปมันช่างหอมหวาน ฮอร์โมนเอ็นโดฟินในร่างกายของผมคงจะหลั่งออกมาอย่างพรั่งพรู ผมรู้สึกว่าในยามนี้ผมมีความสุขซะเหลือเกิน จากรูปจะเป็นทางแยก 4 ทาง โดยทางซ้ายสุดไม่รู้ไปไหน(ลืมถามเจ้าหน้าที่) ทางต่อมาจะไปยังที่พักที่ทางอุทยานจัดไว้ให้นักท่องเที่ยว ทางต่อมาไปน้ำตก และทางสุดท้ายชี้ไปยังสวนเพาะพันธุ์ของอุทยาน ซึ่งเดี๋ยวเราจะค่อยๆมา Review ไปที่ละส่วน
จากรูปจะเป็นบรรยากาศโดยรอบระหว่างทางที่จะเดินไปยังตัวน้ำตกวังแก้ว
สิ่งปลูกสร้างที่เห็นอยู่ไกลๆนั่นคือ ห้องสุขาหรือห้องน้ำนั่นเอง เอาไว้สำหรับหนักเบา อย่าไปปล่อยตามพงหญ้าหรือในน้ำตกนะครับ มันไม่ดี!!!
ศาลาพักใจระหว่างทาง ดูคลาสสิคมากๆอยากไปปลูกแบบนี้ไว้ที่บ้านสักหลัง
เดินชมบรรยากาศมาได้สักพักก็เริ่มมองเห็น "น้ำตกวังแก้ว" กันไกลๆแล้วครับ ตื่นเต้นจังอยากวิ่งไปกระโดดลงน้ำซะเดี๋ยวนี้เลย
มาถึงแล้วครับขอสูดอากาศสดชื่นๆให้เต็มปอดสักหน่อย สวยงามมากครับ ใหญ่และสวยกว่าที่ผมคิดไว้มาก เป็นธรรมชาติที่ผมอยากมาสัมผัสนานแล้ว อยู่กรุงเทพไม่มีอะไรแบบนี้ โอ้เหมือนได้ขึ้นสวรรค์เลยครับ มันเย็นแบบชื้นๆ ระอองจากน้ำตกมาสัมผัสที่ผิว ที่หน้าของเราเป็นความรู้สึกที่สุดยอด เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้เจอมานาน คุ้มค่ากับการรอคอยครับ
![]() |
จากรูปเป็นทางเดินขึ้นไปที่น้ำตกชั้นต่อไป มีป้ายห้ามนำอาหารขึ้นไปกินครับ สามารถกินได้เฉพาะชั้นล่างสุดนี้เท่านั้น
ทางเดินที่จะขึ้นไปอีกชั้นของน้ำตกวังแก้วสูงและชันไม่ใช่เล่น
รูปนี้ผมเดินขึ้นไปข้างบนอีกหน่อย และเดินไปที่กลางน้ำตกวังแก้วเพื่อถ่ายรูปบรรยากาศด้านล่างลงมาครับสวยมากๆทีเดียว ณ ตอนที่ผมอยู่มีคนเที่ยวอยู่แค่ 5 คนเองครับเลยสามารถถ่ายรูปธรรมชาติได้แบบเต็มๆตา
แอบเก็กนิดนึงเอาไว้โพสลง Facebook
นี่เป็นบริเวณสวนเกษตรเพาะพันธุ์พืชจำนวน 1ล้านต้น อ่านตามป้ายที่เค้าปักไว้นะครับ
จากรูปเป็นที่พักที่ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่าเค้าไม่อนุญาตให้มากางเต้นท์ข้างในอุทยานครับ ราคาก็ไม่แพงครับคืนละ 1,000 บาทเท่านั้น ท่าจำไม่ผิดนี่ต่อหลังเลยนะครับ หลังใหญ่มากๆ จากที่ผมเห็นมีอยู่ประมาณ 3 หลังเท่านั้น
การได้มาเที่ยวที่ อุทยานแห่งชาติดอยหลวง หรือ น้ำตกวังแก้ว นี้เป็นประสบการณ์ที่ผมจะไม่มีวันลืมเลยครับ เป็นน้ำตกที่สวยและยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์มากๆ หากจะมาลิ้มรสธรรมชาติสงบๆแบบนี้แนะนำว่าอย่ามาช่วงเทศกาลเป็นอันขาด เพราะคนจะเยอะมากๆ จะมีคนมาจาก เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ ทาเที่ยวกันเยอะ คนเยอะก็อาจจะไม่สนุกได้ครับ หากใครอยากลองสัมผัสบรรยากาศที่สุดยอดเหมือนผมแล้วละก็ "น้ำตกวังแก้ว" ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากๆเลยล่ะครับ มากันให้ได้นะครับ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น